ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนของชีวิตประจำวัน โปรแกรม AI กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ การสรุปประชุม การสร้างภาพและเสียง หรือแม้กระทั่งการค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับโปรแกรม AI ฟรีที่สามารถใช้งานได้จริงและช่วยให้ชีวิตในออฟฟิศง่ายขึ้น
5 ประเภทโปรแกรม AI ฟรีที่ควรรู้ ใช้งานสำหรับทำงานได้
ปัจจุบันมีโปรแกรม AI หลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานตามความต้องการ เราได้แบ่งโปรแกรมเหล่านี้ออกเป็น 5 ประเภทหลัก เพื่อให้เข้าใจง่ายและเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับงานของคุณ
1. โปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความและตรวจสอบข้อความ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการเขียน ไม่ว่าจะเป็นบทความ รายงาน หรือโพสต์ลงโซเชียล โปรแกรม AI เหล่านี้สามารถช่วยให้การเขียนเป็นเรื่องง่ายขึ้น
- Grammarly: โปรแกรม AI ที่ช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ การสะกดคำ และโครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษ สามารถช่วยให้ข้อความมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เหมาะสำหรับนักเขียน นักเรียน และพนักงานออฟฟิศที่ต้องการปรับปรุงทักษะการเขียน
- Copy.ai: โปรแกรม AI ที่ช่วยสร้างเนื้อหา เช่น บทความโฆษณา แคปชัน หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย รองรับภาษาไทย ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายแม้ไม่มีทักษะการเขียนมากนัก
2. โปรแกรม AI ช่วยสรุปและถอดเสียงการประชุม
สำหรับผู้ที่ต้องเข้าประชุมบ่อย ๆ และต้องการตัวช่วยในการบันทึกและสรุปเนื้อหา โปรแกรม AI เหล่านี้ช่วยลดเวลาการทำงานได้เป็นอย่างดี
- MeetGeek: โปรแกรม AI ที่สามารถบันทึกการประชุมผ่าน Zoom, Google Meet และ Microsoft Teams พร้อมสรุปเนื้อหาประชุมโดยอัตโนมัติ และถอดคำพูดออกมาเป็นข้อความให้ตรวจสอบได้ง่าย
- Otter.ai: โปรแกรม AI ที่ช่วยถอดเสียงการประชุม การสัมภาษณ์ หรือบรรยายเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูลได้อย่างสะดวก
3. โปรแกรม AI สร้างภาพจากข้อความ
หากคุณต้องการภาพประกอบสำหรับงานออกแบบหรือโพสต์โซเชียลมีเดีย โปรแกรม AI สามารถช่วยสร้างภาพให้ตรงตามจินตนาการของคุณได้
- Stable Diffusion: โปรแกรม AI สร้างภาพที่สามารถเปลี่ยนข้อความให้กลายเป็นภาพในสไตล์ต่าง ๆ เช่น ภาพวาด ภาพสมจริง หรือภาพแนวภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขภาพได้อีกด้วย
- Canva AI Text to Image: โปรแกรมออกแบบที่มาพร้อมความสามารถในการสร้างภาพจากข้อความ รองรับการสร้างภาพ 3 มิติ ภาพแนวศิลปะ และภาพวาดในรูปแบบต่าง ๆ ใช้งานง่ายแม้ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบ
4. โปรแกรม AI สร้างเสียงและวิดีโอ
การสร้างคอนเทนต์วิดีโอและเสียงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โปรแกรม AI เหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างวิดีโอและเสียงได้โดยไม่ต้องมีทักษะการตัดต่อ
- Descript: โปรแกรม AI ที่สามารถถอดเสียง แก้ไข และสร้างเสียงจากข้อความได้ ช่วยให้การตัดต่อวิดีโอเป็นเรื่องง่ายขึ้น
- Synthesia.io: โปรแกรม AI ที่สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้ โดยมี AI Avatars ที่สามารถพูดตามสคริปต์ที่ป้อนเข้าไป ช่วยลดเวลาการถ่ายทำวิดีโอ และรองรับการใช้งานในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย
5. โปรแกรม AI ช่วยค้นหาข้อมูล
หากคุณต้องการค้นหาข้อมูลแต่ไม่ต้องการเจอโฆษณาหรือผลลัพธ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง โปรแกรม AI เหล่านี้ช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Andi: โปรแกรม AI ค้นหาข้อมูลที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับคำถามโดยไม่มีโฆษณารบกวน สามารถใช้แทน Google หรือ ChatGPT ในบางกรณี
- Brave Leo: โปรแกรม AI ที่ช่วยทำความเข้าใจและเรียบเรียงเนื้อหาบนเว็บไซต์ โดยเน้นความเป็นส่วนตัวและสามารถแปลงข้อความจากภาพหรือเอกสารได้
โปรแกรม AI มีอะไรบ้าง เทรนด์ AI ที่กำลังเติบโต และโอกาสในการลงทุน
นอกจากการนำ AI มาใช้ในการทำงานแล้ว ปัจจุบันยังมีแนวโน้มการลงทุนใน AI ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนหลายคนให้ความสนใจกับกองทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตสูง ตัวอย่างกองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ KFHTECH ซึ่งเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก และมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของตนเอง
สรุป
การทำงานในยุคปัจจุบันสามารถมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วยการใช้โปรแกรม AI ฟรี ซึ่งมีให้เลือกมากมายและครอบคลุมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ การสรุปประชุม การสร้างภาพและเสียง หรือแม้แต่การค้นหาข้อมูล ใครที่สนใจสามารถลองใช้งานโปรแกรมเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้รับจาก AI ด้วย เพราะแม้ว่า AI จะฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังอาจมีข้อผิดพลาดได้เสมอ